“เอซุส” เปิดแนวรุกแท็บเล็ตเต็มตัว หลังแนวโน้มการตอบรับ Nexus 7 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาผลิตไม่ทันขาย เบื้องต้นคาดภายในไตรมาสแรกเสริมไลน์อีก 8 รุ่นในทุกระดับราคา พร้อมสรรหาบุคลากรเข้ามาดูแลกลุ่มผลิตภัณฑ์แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และการขยายเข้าไปในตลาดประเทศพม่า
นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุปถึงภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กในช่วงปี 2012 ที่ผ่านมาซึ่งคาดการณ์ว่ามีปริมาณการซื้อขายทั้งปีลดลงกว่า 5% เป็นผลกระทบจากหลายประเด็นตลอดทุกไตรมาส ส่งผลให้ตลาดรวมปีที่ผ่านมาติดลบเป็นครั้งแรก พร้อมๆ กับการที่กระแสของแท็บเล็ตที่เริ่มแย่งส่วนแบ่งในตลาดโน้ตบุ๊กเพิ่มมากขึ้น และนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลด้วย“ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2012 ที่ยังมีผลกระทบต่อเนื่องมาจากน้ำท่วม ไตรมาสที่ 2 ก็เกิดปัญหาสต๊อกสินค้าขาย ส่วนไตรมาสที่ 3 ซึ่งปกติถือเป็นช่วงที่มีการซื้อขายมากที่สุด ก็ยังพบว่ายอดโดยรวมยังติดลบอยู่ในปีนี้ ขณะที่ในช่วงไตรมาสที่ 4 หลังจบงานคอมมาร์ทก็เงียบ จนกระทั่งถึงช่วงปีใหม่ที่กำลังซื้อเริ่มกลับมาอีกครั้งหนึ่ง”
ขณะที่ทางฝั่งเอซุส แม้ตลาดจะหดตัวแต่ก็ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้ในแง่ของจำนวนเครื่องราว 37% ส่วนในเชิงของมูลค่าอยู่ที่ 28% โดยเป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่เอซุสมีช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย และแข็งแกร่งครอบคลุมทั่วประเทศทั้งรายเล็กและรายใหญ่ มาช่วยกระจายรายรับจากต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น
ส่วนในมุมของตลาดแท็บเล็ตพบว่า ครึ่งปีแรก แอปเปิล และซัมซุงถือเป็นผู้ครองตลาดอยู่ แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง จากการมาของแท็บเล็ต ป.1 และแท็บเล็ตจีนราคาถูกที่เข้ามาในตลาด ทำให้ตลาดแท็บเล็ตมีการเติบโต ส่งผลให้อัตราการเติบโตของแท็บเล็ตจะอยู่ในช่วงระดับราคากลางล่างมากกว่าแบรนด์ที่ทำราคาสูง
“ปริมาณแท็บเล็ตที่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยปี 2012 อยู่ที่ประมาณ 1.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดรวมกับแท็บเล็ต ป.1 ของทางรัฐบาลด้วย และเชื่อว่าในปี 2013 น่าจะขึ้นไปอยู่ที่มากกว่า 2 ล้านเครื่องแน่นอน และทางเอซุสเองก็จะมีการนำแท็บเล็ตในไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต่ำกว่า 5,000 บาท ไปจนถึงกว่า 20,000 บาทมาขายด้วย”
สำหรับเป้าหมายในปี 2013 เอซุสตั้งเป้าไว้ว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดในส่วนของโน้ตบุ๊กอยู่ที่ 20% จากปีที่ผ่านมาคาดว่าจะอยู่ที่ราว 15-16% หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตราว 20-30% แม้ว่าจะมองว่าภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กอาจจะเติบโตเพียง 5% เท่านั้น โดยในส่วนของตลาดแท็บเล็ตคาดว่าจะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 10% ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนเบื้องต้นยังคงเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เป็นหลัก
“ตลาดโน้ตบุ๊ก และแท็บเล็ต กับตลาดสมาร์ทโฟนมีวัฒนธรรมที่ค่อนข้างแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ทำให้ทางเอซุสต้องมีการเพิ่มพนักงานเพื่อเข้ามาดูแลในจุดนี้ พร้อมๆ ไปกับการขยายตลาดไปยังประเทศพม่าที่มีแนวโน้มเติบโตค่อนข้างสูงในอนาคต จึงเชื่อว่าปี 2013 น่าจะเป็นปีที่ดีต่อไป”
Cr: www.manager.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น